วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ASEAN Community 2015

รู้จักประชาคม ASEAN  ก่อน  2558

          ในสภาวะแห่งยุคทุนนิยม ที่เศรษฐกิจเป็นตัวขับเคลื่อนและผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ ก้าวไปอย่างรวดเร็ว 
ประกอบกับประเทศต่าง ๆ นั้นอยู่รวมกันเป็นสังคมโลก 
ไม่สามารถอยู่โดดเดี่ยวเดียวดายได้ 
จึงต้องมีการรวมตัวกันของประเทศในแต่ละภูมิภาค
เพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรอง และเพิ่มขีดความสามารถ
ในการแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศ 
 เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ร่วมและพัฒนาประเทศ
ในภูมิภาคไปพร้อม ๆ กัน
 ด้วยเหตุนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หรือ อาเซียน จึงได้มีข้อตกลง
ให้อาเซียนรวมตัวเป็นชุมชนหรือประชาคมเดียวกัน
ให้สำเร็จภายในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015)
          
          แต่ก่อนที่เราจะมาดูเนื้อหาสาระของการรวมตัว
เป็นประชาคมอาเซียนนี้   
มาย้อนดูกันว่าประเทศในอาเซียนมีการรวมตัวกันได้อย่างไร 
จนมาเป็นอาเซียนในปัจจุบัน
   โดยอาเซียน  ASEAN  หรือ 
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  
(The Association of South East Asian Nations) 
ได้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2510 
โดยประเทศผู้ก่อตั้งอาเซียน คือ ไทย อินโดนีเซีย 
มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ 

           
 ต่อมาในปีพ.ศ.2527 บรูไน ดารุสซาลาม 
 ได้เข้ามาเป็นสมาชิก  ตามด้วยเวียดนามเข้ามาเป็นสมาชิก
เมื่อ พ.ศ. 2538  ขณะที่พม่าและลาวเข้ามา
เป็นสมาชิกใน พ.ศ.2540 และประเทศสุดท้ายคือกัมพูชา 
 เข้าเป็นสมาชิกอาเซียน เมื่อพ.ศ. 2542  
ปัจจุบันอาเซียนมีประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ


                   Towards  ASEAN  in 2015
ASEAN stands for  Association of Southeast Asian Nations

     Its motto is  one vision, one identity and one community.         
ASEAN is a geo-political and economic organization of ten countries located in Southeast Asia, which was formed in August 1967 by Indonesia, Malaysia, the Philippines, Singapore and Thailand. Since then, membership has expanded to include Brunei, Burma (Myanmar), Cambodia, Laos, and Vietnam

             
          Its aims include accelerating economic growth,  
social progress, cultural development among its members, 
protection of regional peace and stability, and opportunities 
for member countries to discuss differences peacefully.
                 
              
              ASEAN covers 3% of the total land area of Earth, 
and has a population of about 600 million people, 
which is 8.8% of the world's population. 
If ASEAN were a single entity, it would rank as 
the ninth largest economy in the world, behind 
the United States, China, Japan, Germany, France
 Brazil, the United Kingdom, and Italy.

                
            
            In 2015, it will be the year for ASEAN Community. 
Thailand, as a member of ASEAN, all Thai people 
are looking forwards to welcome friends from 
all ASEAN countries who are coming to live, learn, 
work and share each other good chances. Hopefully, 
the year 2015 will be the remarkable year in our history.



รู้จัก 10 ประเทศอาเซียน


บรูไน


1.บรูไนดารุสซาลาม (Brunei Darussalam)

          ประเทศบรูไน มีชื่อเป็นทางการว่า "เนการาบรูไนดารุสซาลาม"  มีเมือง  "บันดาร์เสรีเบกาวัน"   เป็น เมืองหลวง 
ถือเป็นประเทศที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก   เพราะมีพื้นที่
ประมาณ 5,765 ตารางกิโลเมตร ปกครองด้วยระบบสมบูรณาญาสิทธิราช   โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 
มีประชากร  381,371 คน   (ข้อมูลปี พ.ศ.2550)   
โดยประชากรเกือบ  70% นับถือศาสนาอิสลาม
 และใช้ภาษามาเลย์เป็นภาษาราชการ



กัมพูชา


2.ราชอาณาจักรกัมพูชา (Kingdom of Cambodia)

          เมืองหลวงคือ กรุงพนมเปญ เป็นประเทศที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศไทยทางทิศเหนือ และทิศตะวันตก  มีพื้นที่ 181,035 ตารางกิโลเมตร   หรือขนาดประมาณ 1 ใน 3 
ของประเทศไทย  มีประชากร 14 ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ.2550)  โดยประชากรกว่า 80% อาศัยอยู่ในชนบท 
95% นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ใช้ภาษาเขมร
เป็นภาษาราชการ แต่ก็มีหลายคนที่พูดภาษาอังกฤษ 
ฝรั่งเศส และเวียดนามได้



อินโดนีเซีย


3.สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Republic of Indonesia)

             เมืองหลวงคือ จาการ์ตา ถือเป็นประเทศหมู่เกาะ
ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีพื้นที่ 1,919,440 ตร.กม.
และมีประชากรมากถึง 240 ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ.2553) 
โดย 61% อาศัยอยู่บนเกาะชวา ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และใช้ภาษา Bahasa Indonesia เป็นภาษาราชการ



ลาว


4.สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) (The Lao People's Democratic Republic of Lao PDR)

            เมืองหลวงคือ เวียงจันทน์ ติดต่อกับประเทศไทย
ทางทิศตะวันตก โดยประเทศลาวมีพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่ง
ของประเทศไทย  คือ 236,800 ตารางกิโลเมตร   พื้นที่
กว่า 90% เป็นภูเขาและที่ราบสูง และไม่มีพื้นที่ส่วนใด
ติดทะเล ปัจจุบัน ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม โดยมีประชากร 6.4 ล้านคน ใช้ภาษาลาวเป็นภาษาหลัก แต่ก็มี
คนที่พูดภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศสได้ ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ



มาเลเซีย


5.ประเทศมาเลเซีย (Malaysia)

          เมืองหลวงคือ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นประเทศที่ตั้งอยู่
ในเขตศูนย์สูตร แบ่งเป็นมาเลเซียตะวันตกบคาบสมุทรมลายู และมาเลเซียตะวันออก ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียว ทั้งประเทศ
มีพื้นที่ 329,758  ตารางกิโลเมตร จำนวนประชากร 
26.24 ล้านคน  ศาสนาประจำชาติคืออิสลาม
ใช้ภาษา Bahasa Melayu เป็นภาษาราชการ


ฟิลิปปินส์


6.สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (Republic of the Philippines)

          เมืองหลวงคือ กรุงมะนิลา ประกอบด้วยเกาะขนาดต่าง ๆ รวม 7,107 เกาะ โดยมีพื้นที่ดิน 298.170 ตารางกิโลเมตร
 มีประชากร 92 ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ.2553)   ส่วนใหญ่
นับถือศาสนาคริสต์ และเป็นประเทศที่มีประชากรนับถือ
ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเป็นอันดับ 4 ของโลก 
มีการใช้ภาษาในประเทศมากถึง 170 ภาษา 
แต่ใช้ภาษาอังกฤษ และตากาลอก เป็นภาษาราชการ



สิงคโปร์


7.สาธารณรัฐสิงคโปร์ (The Republic of Singapore)

          เมืองหลวงคือ กรุงสิงคโปร์ ตั้งอยู่บนตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางคมนาคมทางเรือของอาเซียน 
จึงเป็นประเทศที่มีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจมากที่สุด
ในย่านนี้ แม้จะมีพื้นที่ราว 699 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น 
มีประชากร 4.48 ล้านคน ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการ แต่มีภาษามาเลย์เป็นภาษาประจำชาติ ปัจจุบันปกครองแบบสาธารณรัฐ (ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา มีสภาเดียว)



ประเทศไทย


8.ราชอาณาจักรไทย (Kingdom of Thailand)

          เมืองหลวงคือกรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ 513,115.02 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย 77 จังหวัด มีประชากร 
65.4 ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ.2553) ส่วนใหญ่นับถือ
ศาสนาพุทธ และใช้ภาษาไทยเป็นภาษาราชการ ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์
เป็นองค์ประมุขของประเทศ



เวียดนาม

9.สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (The Socialist Republic of Vietnam)

          เมืองหลวงคือ กรุงฮานอย มีพื้นที่ 331,689 ตารางกิโลเมตร จากการสำรวจถึงเมื่อปี พ.ศ.2553 มีประชากรประมาณ 88 ล้านคน ประมาณ 25% อาศัยอยู่ในเขตเมือง ส่วนใหญ่ร้อยละ 70 นับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน 
ที่เหลือนับถือศาสนาคริสต์ 
ปัจจุบัน ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์



ประเทศพม่า


10.สหภาพพม่า (Union of Myanmar)

          มีเมืองหลวงคือ เนปิดอว ติดต่อกับประเทศไทยทาง
ทิศตะวันออก โดยทั้งประเทศมีพื้นที่ประมาณ 678,500 
ตารางกิโลเมตร ประชากร 48 ล้านคน 
กว่า 90% นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาท หรือ
หินยาน และใช้ภาษาพม่าเป็นภาษาราชการ




ประเทศอาเซียน


          ตลอดเวลา 44 ปีที่ผ่านมา อาเซียนได้เกิดความร่วมมือ 
รวมทั้งมีการวางกรอบความร่วมมือ เพื่อสร้างความเข็มแข็ง 
รวมถึงความมั่นคงของประเทศสมาชิกทั้งด้านความมั่นคงเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และในปี พ.ศ. 2558 อาเซียนได้วาง
แนวทางก้าวไปสู่ประชาคมอาเซียนอย่างสมบูรณ์ 
ภายใต้คำขวัญคือ 
 "หนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งเอกลักษณ์ หนึ่งประชาคม"
 (One Vision, One Identity, One Community) 
โดยมุ่งเน้นไปที่ 3 ประชาคม คือ 
ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน
(ASEAN Political Security Community : APSC)  
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน 
(ASEAN Economic Community : AEC) 
 และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน 
(ASEAN Socio-Cultural Community : ASCC)

          โดยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2552 ผู้นำอาเซียนได้ลงนามรับรองปฏิญญาชะอำ หัวหิน ว่าด้วยแผนงานจัดตั้งประชาคมอาเซียน (ค.ศ. 2009-2015) เพื่อจัดตั้งประชาคมอาเซียนภายในปี 2558  
ซึ่งประชาคมอาเซียนประกอบด้วยเสาหลัก 3 เสา ดังต่อไปนี้

          1.ประชาคม การเมืองและความมั่นคงอาเซียน  (ASEAN Security Community – ASC) มุ่งให้ประเทศในภูมิภาค
อยู่ร่วมกันอย่างสันติ มีระบบแก้ไขความขัดแย้ง ระหว่างกันได้ด้วยดี มีเสถียรภาพอย่างรอบด้าน   มีกรอบความร่วมมือเพื่อรับมือกับ
ภัยคุกคามความมั่นคงทั้งรูปแบบเดิมและรูปแบบใหม่ ๆ 
เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยและมั่นคง

          2.ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community – AEC) มุ่งให้เกิดการรวมตัวกันทางเศรษฐกิจ และ
การอำนวยความสะดวกในการติดต่อค้าขายระหว่างกัน อันจะทำให้ภูมิภาคมีความเจริญมั่งคั่ง และสามารถแข่งขันกับภูมิภาคอื่น ๆ ได้เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนในประเทศอาเซียน


               มุ่งให้เกิดการไหลเวียนอย่างเสรีของ
 สินค้า บริการ การลงทุน เงินทุน การพัฒนาทางเศรษฐกิจ 
 และการลดปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ
ทางสังคมภายในปี 2020

               ทําให้อาเซียนเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว (single market and production base)

                 ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกใหม่ของ
อาเซียนเพื่อลดช่องว่างการพัฒนาและช่วยให้ประเทศเหล่านี้เข้าร่วมกระบวนการรวมตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียน




               ส่งเสริมความร่วมมือในนโยบายการเงินและเศรษฐกิจมหภาค  ตลาดการเงินและตลาดทุน การประกันภัยและภาษีอากร การพัฒนาโครงสร้างพิ้นฐานและ
การคมนาคม พัฒนาความร่วมมือด้านกฎหมาย 
การเกษตร พลังงาน การท่องเที่ยว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์โดยการยกระดับการศึกษาและการพัฒนาฝีมือแรงงาน
   
          กลุ่มสินค้าและบริการนำร่องที่สำคัญ ที่จะเกิด
การรวมกลุ่มกัน คือ สินค้าเกษตร / สินค้าประมง / 
ผลิตภัณฑ์ไม้ / ผลิตภัณฑ์ยาง / สิ่งทอ / ยานยนต์/ อิเล็กทรอนิกส์ / เทคโนโลยีสารสนเทศ (e-ASEAN) / 
 การบริการด้านสุขภาพ, ท่องเที่ยวและการขนส่งทางอากาศ กำหนดให้ปี พ.ศ. 2558 เป็นปีที่เริ่มรวมตัวกัน
อย่างเป็นทางการ   โดยผ่อนปรนให้กับประเทศ 
ลาว กัมพูชา พม่า และเวียตนาม 
สำหรับประเทศไทยได้รับมอบหมายให้
ทำ Roadmap ทางด้านท่องเที่ยวและการขนส่ง
ทางอากาศ (การบิน)



ความร่วมมือ


          3.ประชาคม สังคมและวัฒนธรรมอาเซียน 
(ASEAN Socio-Cultural Community – ASCC) 
 เพื่อให้ประชาชนแต่ละประเทศอาเซียนอยู่ร่วมกัน
ภายใต้แนวคิดสังคมที่เอื้อ อาทร มีสวัสดิการทางสังคมที่ดี 
และมีความมั่นคงทางสังคม


          สำหรับการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวเข้าสู่
การเป็นประชาคมอาเซียนนั้น ประเทศไทยในฐานะที่เป็นผู้นำ
ในการก่อตั้งสมาคมอาเซียน มีศักยภาพในการเป็นแกนนำ
ในการสร้างประชาคมอาเซียนให้เข้มแข็ง จึงได้มีการเตรียม
ความพร้อมเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นประชาอาเซียน โดยจะมุ่งเน้น
เรื่องการศึกษา ซึ่งจัดอยู่ในประชาคมสังคมและวัฒนธรรม 
ที่จะมีบทบาทสำคัญที่จะส่งเสริมให้ประชาคม
ด้านอื่น ๆ ให้มีความเข้มแข็ง 
 
  เนื่องจากการศึกษาเป็นรากฐานของการพัฒนา
ในทุก ๆ ด้าน และจะมีการส่งเสริมให้ประเทศไทย
เป็นศูนย์กลางด้านอาเซียนศึกษา เป็นศูนย์การเรียนรู้
ด้านศาสนาและวัฒนธรรม เพื่อขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนด้วยการศึกษา  ด้วยการสร้างความเข้าใจในเรื่องเกี่ยวกับ
เพื่อนบ้านในกลุ่มประเทศอาเซียน ความแตกต่าง
ทางด้านชาติพันธุ์ หลักสิทธิมนุษยชน ตลอดจนการส่งเสริม
การเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ  เพื่อพัฒนา
การติดต่อสื่อสาร ระหว่างกันในประชาคมอาเซียน
ภาพประกอบ : www.google.co.th flagspot.net
 และ