Rain

  

ฝน เป็นรูปแบบหนึ่งของการตกลงมาจากฟ้าของน้ำ 

นอกจากฝนแล้วยังมีการตกลงมาในรูป 

หิมะ เกล็ดน้ำแข็ง ลูกเห็บ น้ำค้าง 

ฝนนั้นอยู่ในรูปหยดน้ำซึ่งตกลงมายังพื้นผิวโลกจากเมฆ 

  

ฝนบางส่วนนั้นระเหยกลายเป็นไอก่อนตกลงมาถึงผิวโลก 

ฝนชนิดนี้เรียกว่า "virga"

ฝนที่ตกลงมานั้นเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของวัฏจักรของน้ำ 

ซึ่งน้ำจากผิวน้ำในมหาสมุทรระเหยกลายเป็นไอ ควบแน่น

 เป็นละอองน้ำในอากาศ ซึ่งรวมตัวกันเป็นเมฆ 

และในที่สุดตกลงมาเป็นฝน ไหลลงสู่แม่น้ำ ลำคลอง 

ไปสู่ทะเล มหาสมุทร และวนเวียนเช่นนี้เป็นวัฏจักรไม่สิ้นสุด

ปริมาณน้ำฝนนั้นวัดโดยใช้ มาตรวัดน้ำฝน โดยเป็นการวัด

ความลึกของน้ำที่ตกลงมาสะสมบนพื้นผิวเรียบ 

สามารถวัดได้ละเอียดถึง 0.25 มิลลิเมตร หรือ 0.01 นิ้ว 

บางครั้งใช้หน่วย ลิตรต่อตารางเมตร (1 L/m² = 1 mm)

หยาดน้ำฝนนั้น ในการ์ตูนมักจะถูกวาดเป็นรูปหยาดน้ำตา 

คือ ก้นกลมและปลายบนแหลม ซึ่งไม่ถูกต้องในความเป็นจริง 

หยาดฝนเม็ดเล็กนั้นจะมีรูปเกือบเป็นทรงกลม ส่วนเม็ดฝนที่ใหญ่ขึ้น

ก็จะมีรูปร่างที่ค่อนข้างแบนคล้ายขนมปังแฮมเบอเกอร์ 

  

 ส่วนเม็ดที่ใหญ่มากๆนั้นจะมีรูปร่างคล้ายร่มชูชีพ 

โดยเฉลี่ยแล้วเม็ดฝนนั้นจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 

1 ถึง 2 มิลลิเมตร เม็ดฝนที่ใหญ่ที่สุดที่ตกลงถึงผิวโลกนั้น 

ตกที่ ประเทศบราซิล และ เกาะมาร์แชล 

 

ในปี ค.ศ. 2004 โดยมีขนาดใหญ่ถึง 10 มิลลิเมตร 

ขนาดใหญ่ของเม็ดฝนนี้เนื่องมาจากละอองน้ำในอากาศ

ที่มีขนาดใหญ่ หรือ จากการรวมตัวกันของเม็ดฝนหลายเม็ด

 เนื่องมาจากความหนาแน่นฝนที่ตกลงมา

 

โดยปกติแล้ว ฝนจะมีค่า pH ต่ำกว่า 6 เล็กน้อย

 เนื่องมาจากการรับเอาคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ

เข้ามาซึ่งทำให้ส่งผลเป็นกรดคาร์บอนิก ในพื้นที่

ที่เป็นทะเลทรายนั้นฝุ่นในอากาศจะมีปริมาณ

แคลเซียมคาร์บอเนตสูง ซึ่งส่งผลต่อต้านความเป็นกรด 

ทำให้ฝนนั้นมีค่าเป็นกลาง หรือ แม้กระทั่งเป็นเบส 

ฝนที่มีค่า pH ต่ำกว่า 5.6 นั้นถึอว่าเป็นฝนกรด

Rain is liquid water in the form of droplets 

 that have condensed from atmospheric water vapor 

and then precipitated—that is, become heavy enough 

to fall under gravity. Rain is a major component of 

the water cycle and is responsible for depositing 

most of the fresh water on the planet.

   

 It provides suitable conditions for many types of

 ecosystem, as well as water for hydroelectric power

 plants and crop irrigation.

 

The major cause of rain production is moisture 

moving along three-dimensional zones of temperature 

and moisture contrasts known as weather fronts. 

If enough moisture and upward motion is present, precipitation falls from convective clouds 

(those with strong upward vertical motion) 

such as cumulonimbus (thunder clouds) which can

 organize into narrow rainbands. 

In mountainous areas, heavy precipitation is possible 

where upslope flow is maximized within windward 

sides of the terrain at elevation which forces moist air

 to condense and fall out as rainfall along the sides 

of mountains. On the leeward side of mountains,

 desert climates can exist due to the dry air 

caused by down slope flow which causes heating 

and drying of the air mass. 

 

The movement of the monsoon trough, or 

intertropical convergence zone, brings rainy seasons 

to savannah climes.

The urban heat island effect leads to increased rainfall,

 both in amounts and intensity, downwind of cities. 

Global warming is also causing changes in the 

precipitation pattern globally, including wetter 

conditions across eastern North America and 

drier conditions in the tropics. 

 

Antarctica is the driest continent. The globally 

averaged  annual precipitation over land is 715 

millimetres (28.1 in), but over the whole Earth 

is much higher at 990 millimetres (39 in).

Climate classification systems such as the Köppen 

climate classification system use average annual 

rainfall to help differentiate between differing 

climate regimes. Rainfall is measured using 

rain gauges. 

 

Rainfall amounts can be estimated by  

weather radar.

Rain is also known or suspected on other planets, 

where it may be composed of methane, neon, 

sulfuric acid or even iron rather than water.

ที่มาข้อมูล 

ภาพ  https://www.google.co.th/

เรื่อง  http://th.wikipedia.org/wiki